ประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 ที่ไหนดี ? แนะนำ เปรียบเทียบประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 ปัจจุบันค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆการเตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อยของเราด้วยแผนประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำกับแผน ประกันสุขภาพเด็ก ของบริษัท FWD ซึ่งมีแผนประกันให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกมากถึง 6 แผ่นความคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านบาทจนถึง 100 ล้านบาท ซึ่งให้ความคุ้มครองที่ค่อนข้างจะครอบคลุมอย่างมากทั้งผู้ป่วยใน IPD ผู้ป่วยนอก OPD และยังมีวงเงินความคุ้มครองชดเชยสำหรับ 6 โรคร้ายแรง มีค่าปรึกษาแพทย์ ค่าวัคซีน ค่าทันตกรรมประจำปี รวมไปถึงค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์ทางเลือก ซึ่งคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับประกันเด็กยุคนี้
ประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 ที่ไหนดี ?
Precious Care for Kids (พรีเชียสแคร์ฟอร์คิดส์) แผนประกันสุขภาพเด็กที่ให้ความคุ้มครองคุ้มค่า สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วันไปจนถึง 5 ปี สำหรับแผนประกันสุขภาพเด็กตัวนี้จะดูแลให้เหมาจ่ายจัดเต็มทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมไปถึง 6 โรคร้ายแรง ได้แก่ โรคมะเร็งระยะลุกลาม , โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายแบบเฉียบพลันจากการขาดเลือด , โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน , โรคไข้เลือดออกแดงกี , โรคน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมอง , โรคหอบหืดระดับรุนแรง แผนประกันสุขภาพลูกน้อย Precious Care for Kids จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แผนย่อย คือ
-
แผนบรอนซ์
- ให้ความคุ้มครอง วงเงิน 1 ล้านบาท
- ผลประโยชน์ค่าห้อง 2,500 บาทต่อคืน
- ผู้ป่วยนอกปีละ 3,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายทั้งหมด
-
แผนซิลเวอร์
- ให้ความคุ้มครอง วงเงิน 3 ล้านบาท
- ผลประโยชน์ค่าห้อง 4,000 บาทต่อคืน
- ผู้ป่วยนอกปีละ 5,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายทั้งหมด
-
แผนโกลด์
- ให้ความคุ้มครอง วงเงิน 6 ล้านบาท
- ผลประโยชน์ค่าห้อง 6,000 บาทต่อคืน
- ผู้ป่วยนอกปีละ 10,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายทั้งหมด
- ชดเชยโรคร้ายแรง 50,000 บาท
- ค่าห้องเพิ่ม 2 เท่าเมื่อป่วยด้วยโรคร้ายแรง
-
แผนแพลตตินั่ม
- ให้ความคุ้มครอง วงเงิน 12 ล้านบาท
- ผลประโยชน์ค่าห้อง 8,000 บาทต่อคืน
- ผู้ป่วยนอกปีละ 18,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายทั้งหมด
- ชดเชยโรคร้ายแรง 50,000 บาท
- ค่าห้องเพิ่ม 2 เท่าเมื่อป่วยด้วยโรคร้ายแรง
- ค่ารักษาโดยแพทย์ทางเลือก 5,000 บาท/ปี
เปรียบเทียบประกันสุขภาพลูกน้อย 2567
โดยการ เปรียบเทียบรายการสุขภาพลูกน้อย ขอแนะนำเป็นแผนเริ่มต้น คือ Silver Gold Platinum เนื่องจากเป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองเหมาะสมที่สุดเมื่อเทียบกับค่าห้องต่อคืนของโรงพยาบาลเอกชนในปีปัจจุบัน (2567) แต่ให้ชัวร์ที่สุด คือ Gold – Silver เพราะให้วงเงินความคุ้มครองตั้งแต่ 6-12 ล้าน ซึ่งน่าจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อยทั้งหมดแล้วโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของเบี้ยประกันที่สามารถชำระได้ควบคู่กันไปด้วย จากตัวอย่างที่เราอยากให้นำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุด คือ
- Bronze จากแผนนี้เราจะพบว่าจะมีวงเงินความคุ้มครองอยู่ที่ 1 ล้านบาทซึ่งก็ค่อนข้างจะเป็นวงเงินที่อาจจะน้อยไปสักหน่อย รวมไปถึงค่าห้องต่อคืนที่ 2,500 บาท สำหรับโรงพยาบาลเอกชนเตียงเดี่ยวอาจจะไม่เพียงพอแล้วในบางโรงพยาบาลยกตัวอย่างค่าห้องของโรงพยาบาลพญาไท ก็เริ่มต้นที่คืนละ 4-5 พันบาทเข้าไปแล้ว และนอกจากนั้นเมื่อเราดูในส่วนของผู้ป่วยนอกต่อปีก็จะได้วงเงินเพียงแค่ 3,000 บาท ซึ่งเมื่อเราลองมาเปรียบเทียบกับแผนซิลเวอร์
- Silver ก็จะมีวงเงินความคุ้มครองเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า คือ 3 ล้านบาท ค่อนข้างจะอุ่นใจเพราะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อยได้ทั้งหมดแน่นอน รวมถึงค่าห้องก็มีการเพิ่มให้ถึง 4,000 บาท/คืน ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับโรงพยาบาลเอกชนระดับกลาง และถ้าผู้ป่วยนอกก็มีการเพิ่มให้ 5,000 บาทต่อปี
ดังนั้นเมื่อ เปรียบเทียบประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 ของบริษัท fwd แล้วแนะนำว่าหากคุณต้องการความคุ้มค่าและชำระเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แนะนำเป็นแผน Silver แต่ถ้าต้องการความคุ้มครองที่เหมาจ่ายแบบเซฟที่สุดและเบี้ยประกันไม่แตกต่างกันมากนักขอแนะนำกับแผน Gold แต่อย่างไรก็ตามเบี้ย ประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 จะมีในส่วนของแผนความรับผิดชอบส่วนแรก (Deductible) ที่ทำให้ค่าเบี้ยแตกต่างกัน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อ เลือกซื้อประกันสุขภาพลูกน้อยให้คุ้มค่า
แผนปะรกันเด็ก FWD ทั้งหมดประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 มีอะไรบ้าง ?
สำหรับแผนประกันสุขภาพลูกน้อยหลัก ๆ ก็จะเน้นไปในเรื่องของ ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย และมีในส่วนของค่าห้องค่าอาหารรวมไปถึงค่าบริการในโรงพยาบาลที่คิดกันต่อวัน (มักถูกเรียกรวมกันว่าค่าห้อง) และมีส่วนของค่ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอก คือ กรณีที่เจ็บป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรวจรักษาและรับยากลับบ้าน แบบนี้จะถูกเรียกว่าผู้ป่วยนอกหรือ OPD ซึ่งจะมีวงงานค่ารักษาต่อปีให้ตามแผนประกันสุขภาพลูกน้อยที่เราเลือกทำ และอีกส่วนจะเป็นวงเงินความคุ้มครองชดเชยในกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง แต่นอกจากนั้นเรายังสามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งหมายถึงเราจะเลือกจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อความคุ้มครองอื่นๆมารวมกับแผน ประกันสุขภาพลูกน้อย ก็สามารถทำได้ยกตัวอย่างเช่น
- สัญญาเพิ่มเติมสำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต
- สัญญาเพิ่มเติมสำหรับค่าชดเชยกรณีนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
- สัญญาเพิ่มเติม 50 โรคร้ายแรง เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ดีการพิจารณาถึงความจำเป็นและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเปรียบเทียบและพิจารณาก่อนทำประกัน
ความรับผิดส่วนแรก (Deductible) คืออะไร ?
สำหรับความรับผิดชอบส่วนแรก จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะกำหนดได้ว่าเบี้ยประกันที่คุณต้องชำระต่อปีจะมากหรือน้อย ต้องชำระเท่าไหร่ โดยการซื้อประกันสุขภาพลูกน้อยของบริษัท fwd เค้าจะให้คุณเลือกว่าต้องการทำสัญญาแบบไหนระหว่าง
- ประกันสุขภาพเด็กแบบ มีความรับผิดชอบส่วนแรก
- ประกันสุขภาพเด็กแบบ ไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรก
ความแตกต่างของมัน คือ ถ้าหากเราเลือกทำประกันสุขภาพเด็กแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรก จะทำให้เราชำระเบี้ยประกันสุขภาพลูกน้อยได้ในราคาที่ถูก แต่ถ้าหากเราเลือกทำประกันแบบไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรก คุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่สูงกว่า
แล้วแตกต่างกันอย่างไร ?
ความแตกต่างจะอยู่ที่การพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วย เพราะหากคุณเลือกรูปแบบที่มีความรับผิดชอบส่วนแรก แม้ว่าค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าก็ตามแต่เมื่อ เจ็บป่วยต้องเข้าพักรักษาตัวคุณยังจะไม่ได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากแผนประกันสุขภาพนี้ จนกว่าคุณจะมีค่าใช้จ่ายเกินความรับผิดชอบของคุณก่อน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเลือกทำแผนประกันสุขภาพของ fwd ในแผน Bronze และเลือกทำประกันแบบมีความรับผิดชอบส่วน มีการกำหนดไว้ที่ 15,000 บาท
- วันหนึ่งลูกน้อยกะเจ็บป่วยด้วยไข้เลือดออก เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจนเมื่อหายป่วยออกจากโรงพยาบาลพบว่ามีค่าใช้จ่ายอยู่ทั้งหมด 30,000 บาท / คุณพ่อคุณแม่ต้องควักเงินจ่ายเองจำนวน 15,000 บาท และ บริษัท FWD จะจ่ายให้อีก 15,000 บาท
- ภายในปีเดียวกัน ลูกน้อยของคุณเกิดเป็นไข้หวัด และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่อหายดีพบว่ามีค่าใช้จ่ายอยู่ 15,100 บาท / ในกรณีนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องควักเงินจ่ายเอง 15,000 และบริษัท fwd จ่ายให้อีก 100 บาท
แต่ถ้าหากคุณเลือกทำประกันสุขภาพลูกน้อย แบบไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรก แน่นอนว่าก็แตกต่างคือคุณต้องชำระเบี้ยประกันต่อปีที่สูงกว่า แต่เมื่อลูกน้อยเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แผนประกันสุขภาพจะเหมาจ่ายให้ตามจริงทั้งหมดโดยคุณไม่ต้องจ่ายเพิ่มใด ๆ เลย (สูงสุดตามวงเงินแผ่นที่เหลือ) นี่จึงเป็นข้อดีและข้อเสีย ที่คุณอาจต้องพิจารณาเพื่อเลือกรูปแบบเปรียบเทียบประกันสุขภาพ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเลือกซื้อ ประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 อย่างไรให้คุ้มค่า ?
- วงเงินความคุ้มครองของแผนประกัน > พิจารณาจากวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในแต่ละแผนเปรียบเทียบว่าเพียงพอหรือไม่สำหรับความเสี่ยงของลูกน้อยของคุณ โดยอาจดูจากประวัติการรักษาพยาบาล , สภาพแวดล้อม , พันธุกรรม ของลูกน้อยของคุณว่ามีความเสี่ยงการเกิดโรคอะไรมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงโรงพยาบาลที่คาดว่าอาจจะป่วยคุณจะเลือกไปใช้บริการมากที่สุด เพราะส่วนนี้ก็สำคัญเนื่องจากค่ารักษาพยาบาลและค่าห้องของแต่ละโรงพยาบาลก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน เหล่านี้จึงเป็นข้อที่ควรควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อปีนั้นเพียงพอหรือไม่
- ค่าเบี้ยประกันต่อปี > ในส่วนนี้ก็จะหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายในการชำระเบี้ยประกันสุขภาพต่อปี โดยคุณควรพิจารณาถึงความสามารถในการจ่ายได้และไม่เป็นภาระของตนเองในอนาคตมากเกินไป การพิจารณาถึงการทำประกันแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรกและไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรกก็เป็นเรื่องที่คุณควรจะใส่ทองถึงข้อดีและข้อเสียให้ชัวร์ก่อน
- ความคุ้มครองที่ได้รับ > ความคุ้มครองในแต่ละแผนประกันก็จะมีผลประโยชน์ที่แตกต่างกันตามแผนที่เราเลือกดังนั้นการพิจารณาถึงความต้องการเพิ่มเติมต่างๆหรือไม่ต้องการก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
- เงื่อนไขการเคลม ความยากง่ายในการเคลม > ปัจจุบันหลายบริษัทประกันของไทยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเคลมที่ง่ายมากขึ้นโดยใช้การเคลมผ่านระบบออนไลน์ และ แฟกซ์เคลม ดังนั้นหากเป็นการรักษาพยาบาลในเครือประกันก็ไม่ต้องสำรองจ่ายเพราะทางโรงพยาบาลจะทำการเตรียมให้กับเราเอง แต่ถ้าเป็นการรักษาพยาบาลตอนคลินิกนอกเครือข่ายคุณจำเป็นต้องสำรองจ่ายแล้วทำการเคลมกับทางบริษัทที่หลัง แต่สำหรับบริษัท fwd คุณสามารถเคลมผ่าน Application Online ได้ง่าย ๆ จากที่บ้านใช้เวลาอนุมัติไม่เกิน 3 วันทำการ ( วิธีเคลมประกัน fwd )
- ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันสุขภาพ > ประกันสุขภาพลูกน้อย เป็นแผนบริการที่เราทำไว้เพื่อให้ความคุ้มครองกับลูกหลานคนนั้นเป็นที่รักของเราดังนั้นเราต้องมั่นใจว่าเมื่อเกิดการเคลมขึ้นมาต้องสามารถเคลมได้จริงและไม่มีปัญหาใด ๆ หากเราย้อนกลับไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิดรอบแรกเราจะพบว่ามีหลายบริษัทประกันทำแผนความคุ้มครองที่เรียกว่า “ประกันโควิดเกิดจ่ายจบ” แต่เมื่อเกิดการระบาดระลอกใหญ่ขึ้นมาทำให้เกิดการเคลมเป็นจำนวนมากทำให้หลายๆบริษัทประกันไม่จ่ายค่าชดเชย หรือ ตุกติกมีเงื่อนไขเยอะแยะไปหมดจนนำมาซึ่งการฟ้องร้อง รวมไปถึงบริษัทประกันบางแห่งถึงขนาดต้องปิดตัวลง นี่ยังเป็นไอ้หนึ่งเหตุผลว่าความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันสุขภาพทำไมจึงมีความสำคัญ สำหรับบริษัท fwd เป็นบริษัทประกันที่มีทุนจดทะเบียนในประเทศไทยสูงมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นการการันตีได้ถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งทางการเงินที่มีความสามารถในการชำระสินไหมทดแทนให้กับลูกค้าได้แน่นอน
Precious Care for Kids ประกันเด็ก 2567 ดีที่สุด
ดังนั้นสำหรับคำถาม ประกันสุขภาพลูกน้อย 2567 ที่ไหนดี เราขอฟันธงเลยว่า พรีเชียสแคร์ฟอร์คิดส์จาก บริษัท fwd เป็นแผนประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่ายที่ดีที่สุด ให้ความครอบคลุมทางผู้ป่วยในผู้ป่วยนอกค่ารักษาพยาบาลตามจริงได้ครอบคลุม ให้ความคุ้มครองได้อย่างคุ้มค่า มีแผนให้เราเลือกทำประกันได้มากถึง 4 แผน เบี้ยประกันที่ไม่แพง มั่นใจได้กับ บริษัท fwd ซึ่งเป็นแบรนด์ประกันสุขภาพชั้นนำของเอเชียปัจจุบันมีเครือข่ายให้บริการมากถึงกว่า 10 ประเทศ เครียมก็ง่ายเงื่อนไขไม่ยุ่งยากผ่านระบบออนไลน์ สนใจปรึกษาผู้เชี่ยววชาญหรือสอบถามเกี่ยวกับประกันสุขภาพลูกน้อยติดต่อเราได้เลยตอนนี้